รู้ ตัวมือโพสต์รูปนักเรียนนู้ดลงเฟซบุ๊ก เผยถูกสังคมรุมประณามจนต้องลบทิ้งเอง ด้านไอซีทีเร่งตามล่าตัวดำเนินคดี หวั่นกระทบภาพลักษณ์หญิงไทย
จาก กรณีภาพ 7 นักเรียนประพฤติตัวไม่เหมาะสม ถอดเสื้อโพสต์ท่าหวามโชว์ใน “เฟซบุ๊ค” เผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ตกระหึ่มซึ่งผู้คนเห็นภาพแล้วแสนสลดหดหู่ใจ จนสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ออกโรงให้ไอซีทีตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าวนั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (17 ม.ค.) น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานว่า ขณะนี้ ผู้โพสต์ภาพดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า Beer nirvana ได้ลบภาพ 7 นักเรียนหญิง แต่งกายไม่เหมาะสมออกจากเฟซบุ๊กของตนเองแล้ว โดยภายในเพจเฟซบุ๊กของผู้โพสต์ มีผู้คนเข้ามาวิจารณ์ และรุมประณามถึงความไม่เหมาะสมของการนำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่จำนวนมาก
ผอ.สำนัก เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลการเผยแพร่ภาพเด็กและเยาวชนโชว์สรีระตนเองในทางที่ไม่ เหมาะสมเว็บไซต์อีกมาก สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบันเด็กใช้สื่อโดยขาดความระมัดระวัง ใช้ด้วยความคึกคะนอง เรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น เด็กที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้จัดเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงของสังคม อย่างไรก็ตามตนได้ประสานไปยังสายด่วน ศูนย์เสมารักษ์ กระทรวงศึกษาธิการให้ตรวจสอบ รวมถึงให้สถาบันการศึกษาดูแลสอดส่องพฤติกรรมเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวเป็น พิเศษแล้ว ขณะเดียวกันทราบว่าทางกระทรวงไอซีทีก็ได้มีการตรวจสอบหาผู้กระทำความผิด อย่างเร่งด่วน
นายธนิต ประภาตนันท์ ผอ.สำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงไอซีที กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการโพสต์ภาพไม่เหมาะสมของนักเรียนหญิง โดยเริ่มจากขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบ ไอเอสพี หรือ บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก่อน โดยจะขอความร่วมมือเบื้องต้นการพิจารณาเนื้อหาสาระของภาพที่โพสต์ขึ้น เฟซบุ๊ก จากนั้นจะขอความเห็นชอบจาก รมว.ไอซีที เพื่อส่งศาลวินิฉัยว่า การกระทำดังกล่าวมีความเสื่อมเสีย และผิดศีลธรรม วัฒนธรรมอันดีของชาติหรือไม่ โดยพิจารณาจากเด็กผู้หญิงในภาพ ซึ่งเป็นกุลสตรีไทย เกิดความรู้สึกเลียนแบบเพื่อถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม ทำให้ศีลธรรมเสื่อมทราม และทำให้มาตรฐานหญิงไทยตกต่ำลง หากพิจารณาว่ามีความผิด ก็จะดำเนินคดีแก่ผู้โพสต์ภาพดังกล่าวเพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้อื่นเอาเยี่ยง อย่าง
ด้านนางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว ในงานประกาศยกย่องคนทำดี ในโครงการคนดี คิดดี สังคมดีว่า แม้ว่าปัจจุบันมีเด็กที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม แต่ก็ยังมีเด็กบางกลุ่มที่ยังมีค่านิยมที่ผิด ๆ และกล้าแสดงออกในทางที่ไม่ถูกต้อง เด็กเหล่านี้อายุยังน้อยอาจลืมนึกไปว่า ภาพที่ถูกเผยแพร่จะติดตัวเขาไปตลอด ในอนาคตอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาเอง ซึ่งตรงนี้หน้าที่ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม จะต้องชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จากการกระทำของเด็กที่จากการไตร่ตรองก่อนตัดสินใจทำ และสิ่งสำคัญที่สุดผู้ปกครองจะต้อง ให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำในเรื่องของความคิด และค่านิยมของเด็กๆ ด้วย
“ส่วนการ เตรียม ตัวตั้งรับกระแสนิยมของเด็กไทยนั้น จะต้องเร่งบูรณาการการทำงานปลูกฝังจิตสำนึกเด็กและเยาวชนในการแสดงออกในทาง ที่ถูกต้องและเหมาะสมผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กให้มากขึ้น เพราะว่านับวันสิ่งที่ปรากฎมีแต่เรื่องที่อันตรายเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามวธ.ถือว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น คงจะต้องบูรณาการร่วมกับหลายกระทรวง อย่างเช่นกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงไอซีที เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแก้ปัญหาสังคม” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
ในวัน เดียว กัน ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อตรวจสอบถึงที่มาที่ไปว่าต้นตอคลิปปนักเรียนสาวโชว์นู๊ดมาจากที่ไหนและ ภาพที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้นเป็นภาพปัจจุบันหรือถ่ายเก็บไว้นานแล้ว และเด็กในภาพเป็นนักเรียนจากโรงเรียนใด เพื่อหาทางแก้ปัญหาต่อไป และเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่เพ่งเล็งความผิดไปที่นักเรียน แต่เราจะต้องปรับปรุงระบบการศึกษาใหม่ โดยเฉพาะระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เข้มข้นจะได้ไม่มีช่องว่างแบบนี้ เกิดขึ้น
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ สพฐ.จะปรับระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เป็นระบบมากขึ้น เพราะสพฐ.นอกจากจะดูเลเรื่องงานวิชาการแล้วยังมีภาระกิจดูแลนักเรียนไม่ว่า จะเป็นสวัสดิภาพ ความประพฤติ ความมีระเบียบวินัยโดยงานเหล่านี้มีภาระกิจกระจายอยู่หลายหน่วยงานใน สพฐ. ดังนั้นเพื่อให้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นระบบมากขึ้น สพฐ.จึงจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมสัมพันธ์ภาพระหว่างครูและนักเรียนขึ้น โดยหน่วยงานนี้จะทำหน้าที่ส่งเสริมความประพฤติและระบบการดูแลช่วยเหลือนัก เรียน และขึ้นตรงกับเลขาธิการ กพฐ.เพื่อให้การทำงานกระชับฉับไว เพื่อลดสายการบังคับบัญชาให้สั้นลง ดังนั้นหากมีเรื่องความไม่เหมาะสมเกิดขึ้นกับนักเรียน จะมีหน่วยงานนี้ติดตามอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันจะต้องวางมาตรการป้องกันดูแลนักเรียนให้ใกล้ชิดมากขึ้นควบคู่กัน ไปด้วย.
Cambodian Monk Pursuing Leadership Skills at Harvard
12 years ago
0 comments:
¿Te animas a decir algo?